เนื่องจากผู้ใช้งานโฮสติ้งของทาง HostPacific.com ส่วนใหญ่นั้นใช้งาน WordPress ในการสร้างหรือบริหารเว็บไซต์
และเป็นธรรมดาที่ซอฟต์แวร์ หรือแพลตฟอร์มทั่วไปเมื่อใช้งานผ่านระยะเวลาไปแล้วนั้น จะมีการอัพเดทปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
ความปลอดภัยต่อการใช้งานให้มากขึ้นตามเวอร์ชั่นต่าง จึงควรอัพเดทเวอร์ชั่นของ WordPress อยู่อย่างสม่ำเสมอ
หากใครที่กำลังกังวลว่าอัพเดทแล้วอาจทำให้เว็บไซต์ plugin และ theme ที่ใช้งานอยู่นั้นไม่สามารถใช้งานได้
การอัพเดตแล้วมีปัญหานั้นจริงๆเกิดได้จากหลายสาเหตุ หากไม่มั่นใจว่าเวอร์ชั่นใหม่ที่มีเข้ามาให้อัพเดตนั้นจะมีปัญหาหรือไม่
เราอาจจะรอให้ผู้พัฒนา plugin หรือ theme ได้ทดสอบการใช้งานกับเวอร์ชั่นใหม่ก่อนว่าสามารถใช้งานได้จริง เราจึงทำการอัพเดต

ขั้นตอนสำคัญก่อนการอัพเดท WordPress นั้นคือให้ทำการ backup ไว้ก่อน เพื่อป้องกันหากอัพเดตแล้วเกิดปัญหากับข้อมูลเว็บไซต์

 

ลำดับขั้นตอนการอัพเดท

1.อัพเดท Plugin
2.อัพเดท Theme
3.อัพเดท WordPress

 

อัพเดท Plugin และ Theme ก่อนอัพเดท WordPress ด้วย Plugin

1.ติดตั้ง plugin Easy Theme and Plugin Upgrade
2.เปิดใช้งาน (Activate) plugin ให้เรียบร้อย เข้าที่ Appearance > Theme > คลิก Add New (ไม่ต้องลบ theme เก่าออก)
3.เลือกไฟล์ theme ตัวอัพเดท ที่อัพโหลดมาจากเว็บผู้สร้าง theme เรียบร้อย จากนั้นให้คลิก Install Now
4.ก่อนคลิกเปิดใช้งาน (Activate) theme ให้สังเกตบรรทัด A backup zip file of the old theme version can be dowload here.
ให้คลิก here เพื่อ backup ไฟล์ theme ตัวเก่าไว้
เพื่อป้องกันปัญหา theme ตัวใหม่ใช้งานกับ WordPress เวอร์ชั่นใหม่ไม่ได้ ให้กลับไปใช้ theme ตัวเก่ากับ WordPress เวอร์ชั่นเก่า
5.คลิกเปิดใช้งาน (Activate) theme เป็นอันเสร็จเรียบร้อยสำหรับการอัพเดท theme
(การอัพเดท plugin ใช้ขั้นตอนเดียวกันกับการอัพเดท theme ข้างต้น)

ข้อดีคือมีฟังก์ชั่น backup theme และ plugin ตัวเก่าให้ จึงสามารถโหลดเก็บไว้ก่อนที่จะใช้งาน theme ตัวใหม่

 

อัพเดท WordPress จากหน้า dashboard

หากเคยใช้ WordPress หรือใช้งานอยู่เป็นประจำ เราจะพบวิธีการอัพเดท WordPress อยู่ที่หน้า dashboard
จะมีแจ้งเตือนให้ทำการอัพเดท plugin หรือ theme อยู่เสมอ
วิธีการอัพเดทก็เพียงแค่กดปุ่ม update แล้วรอสักครู่การอัพเดทก็จะเสร็จเรียบร้อย

ข้อดีคือเป็นวิธีที่ง่ายต่อ และสะดวก

 

อัพเดท WordPress แบบ manually

การอัพเดทแบบ manually นั้นแน่นอนว่าผู้ที่จะทำการอัพเดทแบบนี้ต้องมี username, password ของ FTP ของเว็บไซต์
1.backup เว็บไซต์ทั้งหมด
2.ปิดการใช้งาน (Deactivate) plugin ทุกตัว
3.เข้า FTP เพื่อดาวน์โหลดโฟลเดอร์ /public_html/wp-content ทั้งโฟลเดอร์ทุกไฟล์ข้างในมาสำรองไว้ และสำรองไฟล์ต่อไปนี้
public_html/.htaccess, public_html/favicon.ico, public_html/wp-config.php, public_html/index.html
4.ใช้ cPanel ลบโฟลเดอร์ /public_html/wp-admin, /public_html/wp-includes และลบไฟล์อื่นๆใน path:/public_html ออก
ยกเว้นไฟล์ public_html/.htaccess, public_html/favicon.ico, public_html/wp-config.php, public_html/index.html,
/public_html/wp-content
5.แตกไฟล์ WordPress เวอร์ชั่นใหม่ แล้วอัพโหลดเฉพาะโฟล์เดอร์ wp-admin และ wp-include ไปไว้ใน path:/public_html
6.อัพโหลดไฟล์ทุกไฟล์ใน wordpress ไปยัง path:/public_html ยกเว้น wp-config.php, readme.html, license.txt.,
wp-config-sample.php
7.Login เข้า WordPress ด้วยชื่อเว็บ/wp-admin เช่น yourdomain.com/wp-admin โปรแกรมจะให้ทำการอัพเดทฐานข้อมูล
8.เปิดการใช้งาน (Activate) plugin ทุกตัวที่ใช้งาน

ข้อดีคือเป็นวิธีที่ชัวร์ และเป็นการเคลียร์ malware ที่อาจจะอยู่ในไฟล์ของ WordPress ซึ่งเว็บไซต์ของเราโดนวางไฟล์

 

Maintenance Mode

การอัพเดท WordPress จากหน้า dashboard หรืออัพเดทอัตโนมัติ WordPress จะ set maintenance mode ให้อัตโนมัติ
เช่น มีคนเข้าเว็บไซต์ขณะทำการอัพเดทจะขึ้นข้อความว่า Maintenance mode is on
ซึ่งระบบจะทำการสร้างไฟล์ .maintenance ไว้ที่ path:/public_html เป็นการบอกว่าอยู่ในโหมด maintenance
และไฟล์นี้จะถูกลบเมื่อมีการอัพเดทเสร็จ หากเกิดข้อผิดพลาดจะทำให้ไฟล์ .maintenance ไม่ถูกลบ
เว็บไซต์จะแสดงหน้า Maintenance mode is on แก้ไขได้ด้วยการลบไฟล์ .maintenance ออกจาก path:/public_html

การอัพเดท WordPress แบบ manually จะแสดงหน้าว่างเปล่าจนกว่าการอัพเดทจะเสร็จสิ้น

 

ตรวจสอบ malware

เข้า FTP และ cPanel ตรวจสอบไฟล์ในโฟลเดอร์ wp-content ซึ่งปกติใช้เก็บไฟล์ภาพ เสียง วิดีโอที่เราอัพโหลด ว่ามีไฟล์ประเภท.php
หรือพวกไฟล์ script ที่รันได้อยู่หรือไม่หากเจอให้ลบออก นั้นหมายความว่าเราโดนวางไฟล์
วิธีนี้สามารถช่วยกำจัด malware ให้ออกจากระบบไฟล์ได้ดี

HostPacific หวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งานทุกท่าน เพื่อให้ทุกท่านเข้าใจขั้นตอนเตรียมก่อนการอัพเดท WordPress มากขึ้นค่ะ